เอแดน อาซาร์(เรอัล มาดริดนักฟุตบอล) ข้อมูลพื้นฐาน

เอแดน อาซาร์โลโก้ไอคอน

เอแดน อาซาร์ข้อมูลพื้นฐาน

เกียรติประวัติ

ล็อสก์ลีล
ลีกเอิง: 2010-11
กุปเดอฟร็องส์: 2010-11
เชลซี
พรีเมียร์ลีก: 2014-15, 2016-17
อีเอฟแอลคัพ: 2014-15; รองชนะเลิศ: 2018-19
เอฟเอคัพ: 2017-18; รองชนะเลิศ: 2016-17
ยูฟ่ายูโรปาลีก: 2012-13, 2018-19
เบลเยียม
ฟุตบอลโลก อันดับที่สาม: 2018
รางวัลส่วนตัว
unfp ligue 1 young player of the year: 2008-09, 2009-10
unfp ligue 1 team of the year: 2009-10, 2010-11, 2011-12
unfp ligue 1 player of the year: 2010-11, 2011-12
unfp ligue 1 player of the month: มีนาคม 2010, มีนาคม 2011, มีนาคม 2012, เมษายน 2012
bravo award: 2011
fifa fifpro world11: 1st team: 2018, 2019; 2nd team: 2015; 4th team: 2014, 2016, 2017; เสมอชื่อเข้าชิง: 2012
fifa ballon d'or/ballon d'or: 2015 (อันดับที่ 8), 2018 (อันดับที่ 8)
the best fifa men's player: 2018 (อันดับที่ 7), 2019 (อันดับที่ 8)
premier league player of the season: 2014-15
premier league playmaker of the season: 2018-19
premier league player of the month: ตุลาคม 2016, กันยายน 2018
premier league goal of the month: กุมภาพันธ์ 2017, เมษายน 2019
pfa premier league team of the year: 2012-13, 2013-14, 2014-15, 2016-17
pfa young player of the year: 2013-14
pfa players' player of the year: 2013-14 (อันดับที่ 2), 2014-15 (1st place), 2016-17 (2nd place)
pfa fans' premier league player of the month: ตุลาคม 2016
pfa fans' player of the year: 2018-19
uefa men's player of the year award: 2015 (อันดับที่ 6), 2018 (อันดับที่ 9), 2019 (อันดับที่ 7)
uefa european championship top assist provider: 2016
uefa team of the year: 2017, 2018
uefa europa league final man of the match: 2019
uefa europa league player of the season: 2018-19
uefa europa league squad of the season: 2018-19
chelsea player of the year: 2013-14, 2014-15, 2016-17, 2018-19
chelsea players' player of the year: 2014-15, 2018-19
chelsea goal of the year: 2015-16 (พบ ทอตนัมฮอตสเปอร์), 2016-17 (พบ อาร์เซนอล), 2018-19 (พบ ลิเวอร์พูล)
fwa footballer of the year: 2014-15
esm team of the year: 2014-15
belgian golden shoe: 2017
fifa world cup silver ball: 2018
fifa world cup top assist provider: 2018
fifa world cup fantasy mcdonald's overall xi: 2018
iffhs men's world team: 2018
belgian sportsman of the year: 2018

คำนำ

เอแดน มีกาแอล อาซาร์ (ฝรั่งเศส: eden michael hazard) เกิดวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 1991 ที่เมืองลาลูเวียร์ ประเทศเบลเยียม เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก หรือ ปีก ปัจจุบันเล่นให้กับเรอัลมาดริด​ อาซาร์มีจุดเด่นด้านการเล่นแบบสร้างสรรค์ ความเร็ว และความสามารถพิเศษ และได้รับการกล่าวว่าเป็น "กองกลางตัวรุกที่สามารถเปลี่ยนเกมด้วยการเลี้ยงลูกฟุตบอล" รวมไปถึงได้รับฉายาว่า "นักฟุตบอลที่เป็นฝันร้ายของกองหลัง" ซึ่งเขาได้รับการเปรียบเทียบความสามารถทักษะและลีลาการเล่นจากสื่อมวลชนและผู้จัดการทีม กับลิโอเนล เมสซิ เจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี และคริสเตียโน โรนัลโด รวมถึงแกเร็ธ เบล อาซาร์เคยติดรายชื่อผู้เล่นยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2014-2015
อาซาร์เป็นลูกชายของอดีตนักฟุตบอลชาวเบลเยียม และเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอาชีพในประเทศเบลเยียมกับรัวยาลสตาดแบรนัว สโมสรท้องถิ่น และตูว์บีซ ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 เขาได้ย้ายมาเล่นให้กับลีล สโมสรในลีกเอิง โดยอาซาร์ใช้เวลา 2 ปีกับอคาเดมีของสโมสร และเมื่ออายุ 16 ปี เขาได้เล่นกับสโมสรชุดใหญ่ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เขาได้กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสรภายใต้การคุมทีมของรูดี การ์ซีอา ด้วยการลงเล่นมากกว่า 190 นัด ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาได้ลงเล่น และเขายังได้รับรางวัลสหภาพนักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ (unfp) และนักฟุตบอลเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปี และเป็นผู้เล่นคนแรกที่ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสที่ได้รับรางวัลนี้ ในฤดูกาล 2009-10 อาซาร์เป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้รับรางวัล 2 ครั้งติดต่อกัน และเขายังได้รับการคัดเลือกเป็นทีมยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย

ในฤดูกาล 2010-11 เขาได้เป็นผู้เล่นตัวหลักของลีล และในฤดูกาลนั้น ลีลคว้าดับเบิลแชมป์ (ฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วย) และยังทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของลีกเอิง และรางวัลผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับรางวัล บราโวอะวอร์ด จากกูเอรินสปอร์ตีโว นิตยสารในประเทศอิตาลี สำหรับการเล่นของเขาในฤดูกาล 2010-11 ต่อมาในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 เขาได้ออกจากลีล ซึ่งเขาผูกพันกับสโมสรนี้มานานมากกว่า 8 ปี ไปอยู่กับเชลซี ในประเทศอังกฤษ ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์

ในด้านทีมชาติ อาซาร์ลงสนามให้เบลเยียมตั้งแต่อายุ 17 ปีในเกมกับลักเซมเบิร์กในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 โดยลงมาเป็นตัวสำรองช่วงท้ายเกม และได้ติดทีมชาติอีก 28 นัดหลังจากนั้น